⁉️คุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่ ⁉️ CHELATION ช่วยได้✅
❗️ผู้ที่อุดฟันด้วยโลหะหนัก อมัลกัม (Amalgum)
❗️ผู้ที่ชอบ ดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือคนรอบข้างสูบบุหรี่
❗️ผู้ที่มีสารเคมีสะสมจากการทำสีผม ทำเล็บ
❗️ผู้ที่สูดดมยาฆ่าแมลง หรือกินสีเคมีต่างๆ
❗️ผู้ไหลเวียนเลือดบกพร่อง มีอาการ เวียนหัวง่าย
❗️โรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากหลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น
❗️ผู้ที่ชอบกินอาหารดิบ อาหารญี่ปุ่น ปลาดิบต่างๆ
♻️CHELATION (คีเลชั่น) เป็นการให้สารประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญในการจับสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือแม้แต่แคลเซียมส่วนเกิน ซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อ และพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือด ก่ออันตรายต่อผนังเซลล์และผนังหลอดเลือด ช่วยลดการเกาะตัวของคอเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด ช่วยรักษาอาการอักเสบของหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและขยายตัวเพิ่มขึ้น การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื่นขึ้น
สำหรับคนที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบและแข็ง สามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดบายพาส (Bypass)ได้ถึง 80% นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณการอนุมูลอิสระในร่างกาย โลหะหนักจะถูกขจัดออกจากร่างกายทางระบบการขับถ่ายปัสสาวะ
ระยะเวลาในการให้คีเลชั่นทางหลอดเลือดดำ แต่ละครั้ง ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง โดยระหว่างนั้นสามารถพักผ่อน ดูโทรทัศน์ รับประทานอาหารว่าง อ่านหนังสือหรือฟังเพลงได้ตามปกติธรรมดา ภายหลังจากการ รักษาก็สามารถประกอบกิจกรรมได้ตามปกติ
—————-
EDTA (Ethylenediaminetetraacetic acid) เป็นสารที่ใช้ในการทำคีเลชั่นบำบัด (Chelation therapy) โดยเฉพาะทางหลอดเลือดดำ (IV) เพื่อกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย การให้ EDTA ทางหลอดเลือดดำ (IV EDTA) เป็นวิธีการกำจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากร่างกาย EDTA จะจับกับโลหะหนักและขับออกจากร่างกายผ่านทางระบบขับถ่าย 
การใช้งาน EDTA ทางหลอดเลือดดำ (IV EDTA):
คีเลชั่นบำบัด (Chelation therapy):
EDTA เป็นสารหลักที่ใช้ในการทำคีเลชั่นบำบัด ซึ่งเป็นกระบวนการกำจัดโลหะหนักออกจากร่างกาย 
การกำจัดโลหะหนัก:
EDTA ช่วยกำจัดโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว, ปรอท, สารหนู, และโลหะอื่นๆ ที่อาจเป็นพิษต่อร่างกาย 
การล้างสารพิษ:
การทำ IV EDTA ช่วยล้างสารพิษและสิ่งตกค้างออกจากร่างกาย 
ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต:
การกำจัดโลหะหนักอาจช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือด 
ข้อควรระวัง:
การให้ EDTA ทางหลอดเลือดดำควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ 
ควรมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก EDTA อาจมีผลข้างเคียงได้ 
การทำ IV EDTA ไม่ได้มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการรักษาโรคทั่วไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม 
ข้อมูลเพิ่มเติม:
EDTA ยังใช้ในการวินิจฉัยภาวะพิษจากตะกั่ว (EDTA mobilization test) 
EDTA มีประโยชน์ในการลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ 
การให้ EDTA ทางปาก (oral EDTA) มีประสิทธิภาพในการดูดซึมน้อยกว่าการให้ทางหลอดเลือดดำ