รู้ไหมว่าการทดสอบภูมิแพ้มี 𝟮 วิธีหลักๆ คือ 𝗦𝗸𝗶𝗻 𝗣𝗿𝗶𝗰𝗸 𝗧𝗲𝘀𝘁 และ การตรวจเลือด (𝗦𝗽𝗲𝗰𝗶𝗳𝗶𝗰 𝗜𝗴𝗘) ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป .  𝗦𝗸𝗶𝗻 𝗣𝗿𝗶𝗰𝗸 𝗧𝗲𝘀𝘁 (สะกิดผิวหนัง) ข้อดี: รู้ผลไวใน 𝟭𝟱-𝟮𝟬 นาที, ราคาถูกกว่า ข้อเสีย: ต้องงดยาแก้แพ้ก่อนตรวจ, ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคผิวหนังรุนแรง .  𝗦𝗽𝗲𝗰𝗶𝗳𝗶𝗰 𝗜𝗴𝗘 (ตรวจเลือด) ข้อดี: ปลอดภัย, ไม่ต้องงดยาแก้แพ้, เหมาะกับทุกคน ข้อเสีย: รอผลนานกว่า (ประมาณ 𝟭 สัปดาห์), ราคาสูงกว่า . แล้วจะเลือกตรวจ

อาจไม่ใช่แค่ป่วย แต่เป็นสัญญาณของ "ภูมิแพ้อากาศ" . เคยสงสัยไหมว่า... เราแพ้อะไรกันแน่? การทำ 𝗦𝗸𝗶𝗻 𝗧𝗲𝘀𝘁 คือวิธีที่ง่ายและรวดเร็วใน การค้นหาคำตอบ! . 𝗦𝗸𝗶𝗻 𝗧𝗲𝘀𝘁 คืออะไร ❓ คือการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง เพื่อค้นหาว่าร่างกายของเรามีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศชนิดใดบ้าง เช่น ไรฝุ่น, ขนสัตว์, เชื้อรา, แมลงสาบ หรือเกสรพืช . ขั้นตอนง่ายๆ รู้ผลใน 𝟭𝟱 นาที: ✅ คุณหมอจะหยดน้ำยาสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ลงบนผิวหนังบริเวณท้องแขน แล้วใช้เข็มขนาดเล็กสะกิดเบาๆ หากคุณแพ

พูดถึง "การทดสอบภูมิแพ้ที่ผิวหนัง" หลายคนอาจจะนึกภาพเข็มแล้วรู้สึกกลัว... แต่จริงๆ แล้ว 𝗦𝗸𝗶𝗻 𝗣𝗿𝗶𝗰𝗸 𝗧𝗲𝘀𝘁 ไม่ได้น่ากลัวเลยค่ะ! .  มันคือการใช้ปลายเข็มเล็กๆ "สะกิด" ที่ผิวเบาๆ เท่านั้น ไม่ใช่การฉีดยา ความรู้สึกจะเหมือนมีอะไรมาจิ้มๆ นิดเดียวเองค่ะ .  ทำไมต้องทดสอบ เพื่อหา "ตัวการ" ที่ทำให้คุณมีอาการภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นผื่นคันเรื้อรัง, จามไม่หยุด, หรือคัดจมูกตอนเช้า การรู้สาเหตุจะทำให้คุณ:       หลีกเลี่ยงได้ถูกจุด: รู้ว่าต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ       รักษาได้ตรงเป้า:.

ภูมิแพ้…ไม่ใช่เรื่องเล็ก! และไม่ควรปล่อยให้กำเริบซ้ำไปเรื่อย ๆ ดูแล “ให้ถูกจุด” อาการดีขึ้นได้จริงค่ะ .  𝟭. เริ่มจากตรวจแพทย์อย่างถูกต้อง เพราะภูมิแพ้มีหลายชนิด—ไรฝุ่น / 𝗣𝗠𝟮.𝟱 / อาหาร / อากาศเย็น รู้ต้นเหตุ = วางแผนรักษาได้แม่นกว่า .  𝟮. ล้างจมูก ช่วยลดการอักเสบ ขจัดสารก่อภูมิแพ้ออกจากโพรงจมูก ลดคัดจมูกได้จริง เหมาะกับคนที่จามหนักช่วงเช้า หรือน้ำมูกเหนียว .  𝟯. ปรับพฤติกรรมในบ้าน – ซักปลอกหมอนให้บ่อยขึ้น – เปิดโหมดแอร์ 𝗗𝗿𝘆 – มีเครื่องฟอกอากาศที่ห้อง – ลดฝุ่นในที่นอน

หลายคนมักทนกับอาการคัดจมูก จาม ไอเรื้อรัง เพราะคิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” .  แต่ความจริงคือ — ภูมิแพ้เรื้อรังไม่สามารถหายเองได้ หากไม่ได้ดูแลถูกวิธี เพราะภูมิแพ้คือ การอักเสบแบบเรื้อรังของเยื่อบุจมูกและระบบทางเดินหายใจ ยิ่งปล่อยไว้ อาการจะค่อย ๆ สะสมจนร่างกายอ่อนล้าแบบไม่รู้ตัว .  ถ้าปล่อยภูมิแพ้ไว้ อาจเกิดอะไรขึ้น?  1. เยื่อบุจมูกบวมจนหายใจไม่โล่งตลอดวัน คุณจะหายใจทางปากมากขึ้น → คอแห้ง ง่วงง่าย เสียงแหบ  2. นอนหลับไม่มีคุณภาพ คนเป็นภูมิแพ้มักมีน้ำมูกไหลตอนนอน ทำให้สะดุ้งตื่น  แม้

หลายคนคิดว่าตัวเอง “เป็นหวัดเรื้อรัง” ทั้งที่จริงแล้ว…อาจกำลังเป็น ภูมิแพ้แบบเรื้อรัง ซึ่งต่างจากหวัดมาก และถ้าปล่อยไว้นานอาจลุกลามจนกลายเป็นไซนัสอักเสบโดยไม่รู้ตัว. ลองเช็คตัวเองจากอาการเหล่านี้ดูค่ะ .  1) ตื่นมาคัดจมูกทุกเช้า อาการนี้เป็นสัญญาณคลาสสิกของภูมิแพ้จาก ไรฝุ่นบนที่นอน หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในห้อง  2) จามชุดใหญ่ 5–10 ครั้งตอนตื่นนอน ถ้าจามรัวเป็นเซ็ต โดยเฉพาะช่วงเช้า = ระบบภูมิคุ้มกันกำลังไวเกินไป  3) มีเสมหะเหนียว คันคอ หรือไอบ่อยตอนกลางคืน เป็นเพราะเยื่อบุจม

นักกายภาพบำบัด…มีมากกว่าที่คุณคิด! คุณรู้ไหมว่า นักกายภาพบำบัดไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว . มาทำความรู้จัก นักกายภาพบำบัดทั้ง 𝟲 ประเภท ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้  ฟื้นฟูผู้ป่วยหลังอุบัติเหตุ/ผ่าตัด  ดูแลผู้สูงอายุ  ฟื้นฟูกล้ามเนื้อและกระดูก  นักบำบัดเด็กและพัฒนาการ  การฟื้นฟูสมองและระบบประสาท  นักบำบัดกีฬาและนักกีฬามืออาชีพ  รู้ไว้…สุขภาพดีเริ่มจากการเลือกนักกายภาพบำบัดที่เหมาะกับคุณ . . .  LINE: @Wmedic (หรือสแกน QR Code)  โทร: 095-696-0966 . #สเต็มเซลล์   #Stemcelltherapy   #KneePai

กายภาพบำบัด ไม่ใช่แค่การนวดผ่อนคลาย แต่คือการ "รักษา" อาการปวดและฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ด้วยเทคนิคเฉพาะทางโดยนักกายภาพบำบัด . ทำไมต้องทำ      แก้ปวดที่ต้นเหตุ: ไม่ใช่แค่บรรเทาชั่วคราว      ฟื้นฟูร่างกาย: หลังบาดเจ็บหรือผ่าตัด      ป้องกันการเจ็บซ้ำ: ปรับโครงสร้างและท่าทางให้ถูกต้อง . เจ็บตรงไหน ปวดตรงไหน อย่าทน! ปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ . . .  LINE: @Wmedic (หรือสแกน QR Code)  โทร: 095-696-0966 . #สเต็มเซลล์   #Stemcelltherapy   #KneePain   #รักษาข้อ

ปวดเข่าเรื้อรัง? ทำไมการรักษาแบบเดิมๆ ถึงไม่หายขาด? มาทำความเข้าใจการทำงานของ "สเต็มเซลล์สด" กันค่ะ . หลายคนสงสัยว่า...ทำไมสเต็มเซลล์ถึงช่วยฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมได้? คำตอบคือ...เพราะสเต็มเซลล์ไม่ได้ทำงานแค่ "ลดปวดชั่วคราว" แต่เป็นการเข้าไป "ซ่อมแซมที่ต้นเหตุ" ลึกถึงระดับเซลล์! . สเต็มเซลล์สดทำงานอย่างไร?  สร้างเซลล์ใหม่ (𝗥𝗲𝗴𝗲𝗻𝗲𝗿𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻): สเต็มเซลล์จะเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลล์กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อข้อที่ขาดหายไป ช่วยเติมเต็มส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวข้อเรียบขึ้น ลดการเสียดสีข

𝗪 𝗠𝗲𝗱𝗶𝗰 มีคำตอบ  𝟭) ข้อเข่าเสื่อมระดับเริ่มต้น–กลาง (𝗚𝗿𝗮𝗱𝗲 𝟮–𝟯) มีอาการปวดเวลาเดิน มีเสียงลั่น งอไม่สุด หรือมีการอักเสบในข้อบ่อย ๆ  𝟮) ผู้ที่อยากหลีกเลี่ยงการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า เหมาะมากสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ยังไม่พร้อมผ่าตัด  𝟯) ผู้ที่ปวดเข่าเรื้อรังจากการใช้งาน เดินเยอะ ยืนนาน เล่นกีฬา วิ่ง หรือทำงานหนักจนเข่าอักเสบซ้ำ ๆ  𝟰) ผู้ที่กระดูกอ่อนบาง แต่ยังไม่สึกหมด สเต็มเซลล์ช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมได้ดี  𝟱) ผู้ที่เคยฉีด 𝗣𝗥𝗣 / 𝗛𝗔 แล้วไม่ดีขึ้นเท่าที่คา