top of page




































ค้นหา


เคสจริงก่อน–หลัง: เลเซอร์CO2 ใบหน้า
ขี้แมลงวันบนใบหน้าจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าท่านนี้ขาดความมั่นใจ แต่งหน้าก็ต้องกลบทุกวัน จึงเข้ารับ การรักษาด้วย เลเซอร์CO2 ใบหน้า ที่ W+ Medic Clinic แพทย์ยิง เลเซอร์CO2 เฉพาะจุดที่เป็นปัญหา ✅ ขี้แมลงวันหลุดออกทันทีหลายจุด ✅ จุดที่เหลือแห้งเป็นสะเก็ด รอผลัด ✅ ผิวเรียบเนียนขึ้นตั้งแต่วันแรก ✅ ไม่ทำลายผิวดีรอบข้าง เมื่อสะเก็ดหลุด ผิวใหม่จะเนียนกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดใน 2–4สัปดาห์ เลเซอร์CO2 เหมาะกับใคร ✔ มีขี้แมลงวัน ไฝ กระเล็ก ๆ ทั่วหน้า ✔ ไม่อยากผ่าตัดหรือมีแผลใหญ่ ✔ ต้องการผลล


เลเซอร์CO2 ใบหน้า จี้ขี้แมลงวัน-กระ เห็นผลใน 14 วัน
“ตอนแรกมีแต่คนทักว่าหน้าดูหมอง มีจุดเล็กๆ เต็มไปหมด พอได้ลองทำ เลเซอร์CO2 ที่ W+ Medic หน้าใสขึ้นแบบเห็นเลยค่ะ แค่ 2อาทิตย์ก็รู้สึกโอเคขึ้นมาก” “ ผมเป็นผู้ชายก็ทำได้ใช่ไหมครับ? พอมาดูเคสนี้แล้วแบบ… เออ มันเห็นผลจริง ไม่ต้องแต่งหน้าไม่ต้องปิดจุดให้เสียเวลา” “ตอนยิงเลเซอร์รู้สึกจี๊ด ๆ นิดหน่อย แต่ทนได้ หมอบอกแผลจะเป็นสะเก็ด แป๊บเดียวก็หลุด ตอนนี้ผิวลื่นขึ้นเยอะเลยครับ ” สรุปจากประสบการณ์ผู้ทำ เลเซอร์CO2 ✅ จุดเล็ก ๆ ลดลงชัดเจน ✅ ผิวเรียบขึ้น ถ่ายรูปมั่นใจขึ้น ✅ หลังทำมีสะเก็ด


รีวิวเคส:เลเซอร์CO2 ใบหน้าเพื่อรักษาขี้แมลงวันและกระเฉพาะจุด
ในบางคน ขี้แมลงวันและกระอาจเกิดได้หลายตำแหน่งบริเวณใบหน้า ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน เคสนี้แพทย์ตรวจประเมินแล้ว พบว่าเป็นรอยราบและรอยนูนขนาดเล็ก ซึ่งเหมาะกับการใช้ เลเซอร์CO2 หลังทำทันทีเกิดอะไรขึ้น? บริเวณที่ยิงเลเซอร์จะเป็น สะเก็ดสีน้ำตาลเข้ม ➡ รอให้หลุดตามธรรมชาติภายใน 7–14 วัน➡ ห้ามแกะเพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็น ✅ หลักการรักษาด้วย เลเซอร์CO2 จะทำงานโดย เลเซอร์จะถูกดูดซับโดยน้ำในผิวหนัง ทำให้เกิดการระเหยของเนื้อเยื่อเฉพาะจุด ไม่กระทบผิวดีรอบข้าง แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวรวดเร็ว .


อยู่ดีๆ ก็มีติ่งเนื้อขึ้นบนหน้า รำคาญสุดๆ เลเซอร์CO2 ช่วยได้
“ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นไร แต่พออยู่บนหน้าใกล้ๆ คิ้วมันสะดุดตาเกินครับ ผมเป็นคนทำงานเจอคนเยอะ เเล้วรู้สึกไม่สบายใจ เลยลองเข้ามาปรึกษา” “ ทำเสร็จแล้วติ่งเนื้อที่นูน ๆ มันหายไปเลย เหลือแค่รอแผลแห้ง ฟีลประมาณเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คิด หมอคอยบอกระหว่างทำตลอด สบายใจดีครับ” ผลลัพธ์ ✅ ติ่งเนื้อที่เห็นชัดลดลงทันที ✅ ผลจะดีขึ้นอีกเมื่อผิวสมาน ✅ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เหมาะสำหรับผู้ชายที่ ▪ มีติ่งเนื้อบนหน้าแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ ▪ ไม่อยากให้ใครจ้องที่จุดเดิมซ้ำ


รีวิวเคสจี้ไฝบนใบหน้า (เลเซอร์CO2)
ฉันมี ไฝนูนสีดำบริเวณคาง มาตั้งแต่สมัยเรียน ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไร แต่พอโตขึ้นกลับรู้สึกว่ามันชัดเกินไป หลังจากหาข้อมูล ฉันตัดสินใจทำ เลเซอร์CO2 กำจัดไฝ คุณหมอใช้เวลาไม่นาน เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หลังทำมีแค่รอยแดงเล็ก ๆ แต่ไม่เจ็บและใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที ทำไมหมอถึงเลือก เลเซอร์CO2 กับเคสนี้? ✔ เลเซอร์ทำลายเฉพาะเซลล์ไฝ ✔ ลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำ ✔ แผลเล็ก ฟื้นตัวไว ✔ เห็นผลหลังทำทันที ช่วงเวลาหลังทำ แผลจะจางลงเรื่อย ๆ 1–4 สัปดาห์ ขึ้นกับการดูแลของผิวแต่


จี้ไฝบริเวรร่องปาก Byเลซอร์CO2
ไฝตรงนี้มันอยู่ในจุดที่เห็นชัดมาก พอ ทำเลซอร์CO2 ไปแผลเล็กกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ ตอนนี้มั่นใจขึ้นเวลาเจอคนใกล้ๆ มากกว่าเดิมค่ะ วิเคราะห์เคสนี้ ตำแหน่งไฝที่อยู่ใกล้ร่องปาก เป็นจุดที่หลายคนสังเกตเห็นง่าย คุณหมอจึงประเมินลักษณะของไฝก่อนว่าเป็นแบบไม่อันตรายและเหมาะกับการรักษาด้วย เลเซอร์CO2 ซึ่งใช้พลังงานเลเซอร์ความแม่นยำสูง ในการทำลายเฉพาะเนื้อเยื่อของไฝ หลังทำ ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว จะเห็นเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ รอให้หลุดตามธรรมชาติภายในประมาณ 7 วัน จากนั้นสีผิวจะค่อย ๆ


CO2Laser in Facial Lesion Removal (Forehead Case)
เคสนี้เป็น รอยก้อนผิวขนาดเล็กบริเวณหน้าผาก แพทย์ทำการตรวจประเมินพื้นผิว ความนูน และสีของรอยก่อนรักษา เพื่อวางระดับพลังงานเลเซอร์ให้เหมาะสมเพื่อเล็งจำกัดเฉพาะเซลล์ที่ผิดปกติเท่านั้น หลังการรักษาด้วย CO2Laser ลักษณะผิวเปลี่ยนเป็นระนาบเรียบขึ้นทันที และพื้นผิวบริเวณโดยรอบยังคงเป็นผิวปกติ ซึ่งแสดงถึงความแม่นยำในการควบคุมความลึกและพื้นที่ของเลเซอร์ จุดที่น่าสังเกตจากผลลัพธ์เคสนี้ — พื้นผิวจากที่เคยนูน มีความเรียบเข้ากับผิวรอบข้าง — สีผิวแม้ยังมีร่องรอยอยู่ แต่โทนผิวตอบสนอง


เลเซอร์บริเวณหางคิ้ว (เลเซอร์CO2)
รอยก้อนผิวที่พบในตำแหน่งใกล้ดวงตา เป็นบริเวณที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูงในการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและลดความเสี่ยงการเกิดรอยผิดปกติบนผิวหนังรอบดวงตา หลังทำจะ เห็นได้ทันทีว่าความนูนของรอยลดลงอย่างชัดเจน พร้อมมีขอบเขตแผลที่เป็นระเบียบ สะท้อนถึงการควบคุมหัตถการที่แม่นยำเหมาะสมกับความบางของผิวรอบดวงตา ซึ่งเป็นสัญญาณผลลัพธ์ที่ดีในเชิงการฟื้นตัวของผิว จุดน่าสังเกตของเคสนี้ — เนื้อผิวที่เคยนูนหายไปเกือบทั้งหมด หลังทำทันที — ผิวรอบบริเวณแผลไม่มีรอยบวม กระ


รีวิวจากผู้ใช้บริการรักษาคีลอยด์ใบหู
ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่ ก้อนพังผืดเล็กๆ จากการเจาะหูแต่ผ่านไปไม่กี่เดือนมันโตขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นเด่นชัดมาก ทั้งเจ็บ ทั้งรำคาญเวลาใส่หน้ากาก เลยตัดสินใจมาปรึกษาคุณหมอที่ W+ Medic Clinic หมออธิบายสาเหตุของคีลอยด์อย่างละเอียด พร้อม แผนการรักษาที่เหมาะกับเคสของเรา เช่น ผ่าตัดเอาพังผืดออก แล้วค่อยฉีดยาควบคุมไม่ให้มันกลับมาโตอีก รวมถึงอาจใช้เลเซอร์ช่วยลดรอยแดงร่วมด้วย ซึ่งคุณหมอจะคอยติดตามผลและปรับการรักษาให้เหมาะสมทุกครั้ง ความประทับใจที่ลูกค้าบอกเอง • คุณหมอให้ข้อมูลชัดเจน...


คีลอยด์บริเวณใบหู มีวิธีรักษาให้ยุบลงได้
บางครั้งเราแค่คิดว่า 🤔“เดี๋ยวมันคงหยุดโตเองแหละ ”แต่คีลอยด์…ไม่เคยหยุดเลยจริง ๆ หลายคน • ใส่แมสแล้วระคายเคือง • โดนจ้อง • ทรงหูเปลี่ยน จนไม่กล้าถ่ายรูป และยิ่งปล่อยไว้นาน → ยิ่งขยายตัวมากกว่าเดิม แต่วันนี้คุณไม่ต้องทนแล้วค่ะหมอจะช่วยประเมิน อย่างละเอียดเพื่อเลือก วิธีรักษาที่เหมาะกับคุณที่สุด เช่น ✔ ผ่าตัดเอาพังผืดส่วนเกินออก ✔ ฉีดยาเพื่อกดการสร้างคอลลาเจน ✔ เครื่องมือช่วยลดการกลับมาเป็นซ้ำ เป้าหมายคือ ให้หูเรียบขึ้น และ ลดโอกาสเกิดใหม่ 📍 W+ MEDIC CLINIC 📞 โทร : 095-


คีลอยด์ที่ใบหูทั้งสองข้า แก้ไขได้ไม่ต้อกังวล
หลายคนที่ เจาะหูแล้วเกิดคีลอยด์ อาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่เมื่อโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเจ็บ ระคายเคือง และเห็นได้ชัด จนทำให้เสียความมั่นใจ แพทย์จะตรวจประเมินลักษณะคีลอยด์ก่อนทุกครั้ง เพื่อตัดสินใจแนวทางการรักษาที่เหมาะกับแต่ละราย เช่น • ผ่าตัดเลาะพังผืดผิดปกติออก • ฉีดยาควบคุมการสร้างคอลลาเจน • ติดตามผลต่อเนื่องเพื่อลดโอกาสเกิดซ้ำ ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ แผลเรียบขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงที่คีลอยด์จะขยายใหญ่กว่าเดิมหากปล่อยทิ้งไว้ 📍 W+ MEDIC CLINIC ศูนย์รักษาคีลอยด์ ใบหู / แผลผ่าต


คีลอยด์ คืออะไร? ทำไม “นูน-โตไม่หยุด”
คีลอยด์ (Keloid) คือ ภาวะที่ร่างกายสร้างพังผืดเกินจากแผลเดิมแทนที่แผลจะค่อยๆ สมานกลับเรียบเนียนกลับ “ดันตัวนูนล้ำ” ขยายใหญ่กว่าแผลจริงหลายเท่า พบบ่อยบริเวณ ใบหู, หน้าอก, ไหล่, กราม, ใบหน้า บางรายมีอาการ เช่น • คัน เจ็บ จี๊ดๆ • ระคายเมื่อโดนเหงื่อหรือหน้ากาก • เสียดสีกับเสื้อผ้า/หูฟังจนโตเร็วขึ้น วิธีรักษาทางการแพทย์ การรักษาจะต้องประเมินเป็นรายเคส เช่น ✔ ผ่าตัดเลาะพังผืดอย่างประณีต ✔ ฉีดยาควบคุมการสร้างคอลลาเจน ✔ การดูแลติดตามต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสกลับมา 📍 ดูแลโดยแพทย์เฉ


คิดว่าเป็นก้อนเล็ก เดี๋ยวก็ยุบ? ระวังอาจเป็นคีลอยด์
คีลอยด์บริเวณใบหู เป็นแผลเป็นที่ ยิ่งทิ้งไว้นาน ยิ่งขยายใหญ่กว่าเดิม โดยเฉพาะหลังเจาะหู แล้วมีการกระตุ้นซ้ำ เช่น • เปลี่ยนต่างหูบ่อย • แพ้โลหะ • มีแรงดึงรั้งผิว ทำให้คอลลาเจนผลิตเกินความจำเป็น → ก้อนแข็งขึ้น โตต่อเนื่อง การดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อลดการกลับมา แพทย์จะประเมิน และกำหนดแนวทางเฉพาะบุคคล เช่น 🔹 ผ่าตัดเอาคีลอยด์ออกอย่างประณีต 🔹 ฉีดลดพังผืดควบคู่ 🔹 ลดการดึงรั้งผิวบริเวณใบหู 🔹 ติดตามอาการป้องกันการเกิดซ้ำ 📍 สอบถามคีลอยด์ W+ Medic Clinic 📞 095-696-0966 🌐


คีลอยด์หู ทำให้ไม่กล้าทำผมเก็บหู?
หลายคนเลี่ยงการผูกผมหรือสวมต่างหูเพราะกลัวสายตา คนอื่นจ้องก้อนที่หูทั้งที่ตอนเริ่ม…มันก็แค่ตุ่มเล็กๆ ที่คิดว่าจะยุบเอง แต่ความจริงคือ คีลอยด์จะไม่มีวันหายไปเอง และจะค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ รักษาตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้ใหญ่กว่านี้ การรักษาคีลอยด์หูแพทย์จะประเมิน “ลักษณะก้อน–ตำแหน่ง–ผิวบริเวณรอบข้าง” แล้วจัดการอย่างเป็นขั้นตอน เช่น 🔹 เอาก้อนออกให้หมด 🔹 ควบคุมการสร้างพังผืดที่เป็นสาเหตุ 🔹 ปิดแผลแบบละเอียดเพื่อลดรอยแผลใหม่ 🔹 ติดตามอาการ เพื่อป้องกันการกลับซ้ำ ทำไมต้องที่แพทย์ช่วยด


ก้อนที่หูใหญ่ขึ้นทุกเดือน…ใช่คีลอยด์หรือเปล่า?
หลายคนมี ตุ่มจากการเจาะหูตอนแรกแล้วคิดว่า เดี๋ยวก็ยุบเองแต่พอเวลาผ่านไปมันกลับ โตขึ้น แข็งขึ้น และเริ่มดึงสายตาคนรอบข้าง สาเหตุคือ… คีลอยด์เป็นแผลที่ร่างกายซ่อมเกินจำเป็นไม่หายเอง และมีแนวโน้ม โตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตำแหน่ง “ใบหู” ที่มีแรงดึงและเสียดสีตลอดเวลา แล้วควรทำยังไง? คีลอยด์ต้องรักษาแบบ “เฉพาะเจาะจง” ไม่ใช่แค่ตัดออกอย่างเดียว แพทย์จะประเมินลักษณะก้อนก่อน แล้วเลือกวิธีที่เหมาะที่สุด เช่น ผ่าตัดเอาก้อนที่หูออก ควบคุมพังผืดที่เป็นต้นเหตุ ดูแลหลังทำเพื่อลดโอกาสก


รักษา คีลอยด์หู
ก่อนรักษา ผู้ป่วยพบ ก้อนนูนแข็งบริเวณรูเจาะหู ขยายขนาดเรื่อยๆ จนเริ่มรบกวนการใช้ชีวิต ทั้งเวลารวบผมและใส่หน้ากาก ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ และกังวลว่าก้อนจะโตขึ้นอีก แพทย์ประเมิน ตรวจลักษณะก้อน พบว่าเป็น “คีลอยด์จากแผลเจาะหู” ซึ่งเป็นแผลเป็นชนิด ที่โตลุกลามออกนอกขอบแผลเดิมได้ แพทย์จึงแนะนำแนวทางรักษาที่เหมาะกับเคสนี้ เพื่อควบคุมไม่ให้ก้อนขยายเพิ่ม แนวทางการรักษาที่ใช้ในเคสนี้ • การรักษาแบบหัตถการร่วมกับตัวยาที่ช่วยลดการสร้างคอลลาเจน ผิดปกติของคีลอยด์ • ทำโดยแพทย์ เพื่อความแม่


ก้อนคีลอยด์ แม้จะดูน่ากังวล… แต่จัดการให้ยุบได้ค่ะ
หลายคนกังวลเมื่อเห็นก้อนคีลอยด์โตขึ้นทีละนิดแต่รู้ไหมคะ? ผลลัพธ์หลังรักษาที่ถูกต้อง ความมั่นใจสามารถกลับมาได้เร็วกว่าที่คิด ลองจินตนาการตอนที่ ✅ รวบผมได้แบบไม่ต้องกลัวเห็นก้อน ✅ ถ่ายรูปด้านข้างได้อย่างสบายใจ ✅ ไม่ต้องคอยปิด ไม่ต้องคอยซ่อนอีกต่อไป เพราะ “คีลอยด์” เป็นแผลเป็นที่โตลุกลามเองได้ยิ่งปล่อยนาน โอกาสที่ก้อนจะใหญ่ขึ้นก็สูงขึ้นแต่ถ้าดูแลโดยแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยควบคุมอาการ และทำให้ก้อนยุบลงได้ชัดเจนขึ้น 📍 ต้องการคำปรึกษาเรื่องคีลอยด์ใบหู? W+ Medic Clinic ดูแลโดย


เคสคีลอยด์ขนาดใหญ่ ทำไมต้องรีบรักษา?
เคสนี้เป็น “ คีลอยด์ขนาดใหญ่ ” ที่โตต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนลักษณะก้อนแข็ง นูน และเริ่มมีการดึงรั้งผิวรอบ ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า คีลอยด์อยู่ใน ภาวะลุกลาม ( Active Keloid ) หากปล่อยไว้อีก แผลเป็นจะยิ่งขยายตัวและรักษายากขึ้นเรื่อยๆ คีลอยด์ลักษณะนี้ มักเกิดหลังเจาะหู โดยเฉพาะตำแหน่งกระดูกอ่อน เมื่อมีการอักเสบหรือการตอบสนองของผิวมากเกินไป จะทำให้ร่างกาย สร้างเนื้อเยื่อแผลเป็นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นก้อนใหญ่แบบในภาพ ที่ W+ Medic Clinic แพทย์จะประเมินระดับการโตของคีลอยด์ก่อนเ


วิเคราะห์เคสคีลอยด์ใบหู
จากภาพเป็น คีลอยด์ขนาดใหญ่บริเวณหลังใบหู ที่มีลักษณะ • ก้อนนูนมาก • ผิวแข็ง หนา และมีรอยย่นจากการขยายตัว • สีคล้ำกว่าผิวปกติเล็กน้อย • น่าจะเกิดจากการเจาะหู + การอักเสบสะสม • อยู่ในระยะ “Active” คือยังโตได้ต่อ หากไม่รักษา แนวทางรักษาที่เหมาะกับเคสนี้ เนื่องจากเป็นคีลอยด์ขนาดใหญ่ การรักษาจะใช้ หลายวิธีร่วมกัน เพื่อควบคุมการกลับมาโตซ้ำ 1) ผ่าตัดเอาก้อนออก (Keloid Excision) ทำในห้องหัตถการปลอดเชื้อ ตัดเฉพาะส่วนที่เป็นคีลอยด์ออกให้มากที่สุด ก้อนหายไปทันที 2) ควบคุมการโตด้วยย


มารู้จักกับคีลอยด์ (Keloid)
“คีลอยด์ คือ รอยแผลที่ถูกซ่อมแบบผิดจังหวะ ” เมื่อผิวถูกบาด – เจาะ – มีบาดแผลหรือการเสียดสี ระบบซ่อมแซมของร่างกายจะผลิตคอลลาเจน แต่ใน กรณีของคีลอยด์ ร่างกายผลิตคอลลาเจนเกินจำ เป็นจนเกิดเป็นก้อนนูนโตขึ้น หรือล้ำขอบเขตของแผลเดิม ลักษณะที่พบบ่อย • ก้อนนูน โค้งมน หรือใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าแผลเดิม • อาจมีสีต่างจากผิวรอบข้าง เช่น แดง ชมพู น้ำตาล ขึ้นอยู่กับโทนผิว • มักเกิดใน บริเวณที่มี การเจาะหู/ใบหน้า/อก/ไหล่ เพราะมีแรงดึงรั้งหรือเสียดสีอยู่เสมอ ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง
bottom of page