การรักษาหลุมสิวด้วยเกล็ดเลือด หรือ PRP (Platelet Rich Plasma) คือการนำเลือดของตัวเองมาปั่นแยกเอาพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วฉีดกลับเข้าไปบริเวณที่มีหลุมสิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีนี้มีความปลอดภัยเพราะใช้เกล็ดเลือดจากร่างกายตนเอง แต่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ขั้นตอนการทำ
เจาะเลือด:
เจ้าหน้าที่จะเจาะเลือดประมาณ
10−2010 minus 20
10−20ซีซี
ปั่นแยกเลือด:
นำเลือดไปปั่นด้วยเครื่อง เพื่อแยกเอาพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ออกจากเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว
เตรียมผิว:
ทำความสะอาดผิวหน้า และทายาชา เพื่อลดความเจ็บปวด
ฉีด PRP:
แพทย์จะฉีด PRP ที่ได้กลับเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นหลุมสิว บางครั้งอาจใช้เครื่องมือช่วยในการฉีดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์และการรักษา
กระตุ้นคอลลาเจน:
สารในเกล็ดเลือดจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว
ฟื้นฟูผิว:
ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น
หลุมสิวตื้นขึ้น:
ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
ความปลอดภัย:
เป็นการใช้เลือดของตัวเอง จึงมีความปลอดภัยสูง
ควรทำต่อเนื่อง:
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรทำซ้ำประมาณ
2−4 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2−4สัปดาห์PRP(Platelet Rich Plasma)เซลล์ซ่อมเซลล์ในระดับดีเอ็นเอ โดยเทคนิค ...
ควรทำ Active stemcell PRP บ่อยแค่ไหน โดยปกติจะเห็นผลลัพธ์หลังการทำไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ ควรกระตุ้นซ้ำอีก เพื่อการบำบัดที่มีประสิทธิภาพ ควรทำ PRP Therapy ประมาณ ...
การดูแลหลังทำ
ห้ามโดนน้ำ:
ในช่วง24 ชั่วโมงแรก หลังทำ ห้ามล้างหน้าหรือให้หน้าโดนน้ำ
หลีกเลี่ยงแสงแดด:
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดประมาณ
3−5minus
3−5วันหลังทำงดทาครีมบางชนิด:
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือสาร Whitening ในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
งดแต่งหน้า:
งดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วันหลังทำ
งดกิจกรรมบางอย่าง:
หลีกเลี่ยงการขัดผิว นวดหน้า อบไอน้ำ หรือซาวน่า และงดการออกกำลังกายอย่างหนักหรือว่ายน้ำอย่างน้อย 1 วัน
งดยาบางชนิด:
ควรหลีกเลี่ยงยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือ NSIAD ในช่วงเวลาที่แพทย์แนะนำ